เปิดลิสต์ 4 อาหารทำร้ายผิวที่กินบ่อย...ยิ่งกินยิ่งสิวขึ้น หน้าแก่ก่อนวัย!

รู้หรือไม่? ชานมไข่มุก ของทอด หรือส้มตำรสแซ่บที่คุณชอบ อาจเป็นอาหารทำร้ายผิวตัวร้าย! บทความนี้จะเผย 4 เมนูยอดฮิตที่ควรระวัง พร้อมทริคกินอย่างไรให้ผิวสวยใส ไม่พัง

เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ราคาแพงแค่ไหน ปัญหาผิว ทั้งสิว ริ้วรอย หน้ามัน ผิวแห้ง ก็ยังไม่หายไปซักที? คำตอบอาจซ่อนอยู่ใน "อาหาร" ที่เรากินเข้าไปทุกวันนี่เอง Glass Skin จะพามาดูกันว่ามี อาหารทำร้ายผิว จานโปรดอะไรบ้างที่กำลังเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวสวย และเราจะปรับการกินได้อย่างไรให้ยังมีความสุขกับการกินได้เหมือนเดิม
เช็กลิสต์ 4 กลุ่มอาหารยอดฮิต ยิ่งกินเยอะ ยิ่งทำผิวเสีย
มาดูกันว่าใน 4 กลุ่มนี้ มีเมนูโปรดของคุณอยู่หรือไม่
1. น้ำตาลและความหวาน (ชานมไข่มุก, เค้ก, กาแฟหวานมัน)
สำหรับ "สายหวาน" ทั้งหลาย เครื่องดื่มแก้วโปรดอย่างชานมไข่มุก กาแฟเย็น หรือขนมเค้กแสนอร่อย อาจเป็นตัวการหลักที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยโดยไม่รู้ตัว
น้ำตาลในปริมาณสูงจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกาย เกิดเป็นสารที่ชื่อว่า AGEs (Advanced Glycation End Products) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่เข้าไป ทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวโดยตรง ผลลัพธ์ก็คือผิวจะขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ น้ำตาลยังกระตุ้นการอักเสบ ทำให้คนที่เป็นสิวอยู่แล้ว ยิ่ง กินหวานสิวก็ยิ่งเห่อ และยังกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นจนหน้ามันเยิ้มอีกด้วย

ทริคกินอย่างไรให้ผิวไม่พัง
สั่งเครื่องดื่มแบบ "หวานน้อย" หรือ "ไม่หวานเลย"
ค่อยๆ ลดปริมาณของหวานที่กินในแต่ละวัน
เลือกทานผลไม้ที่มีรสหวานธรรมชาติแทนขนมหวาน
2. ของทอดและไขมันทรานส์ (ไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์, โดนัท) ของทอดกรุบกรอบคือความสุขของใครหลายคน แต่ความสุขบนลิ้นมักสวนทางกับสุขภาพผิวเสมอ
ไขมันทรานส์ทำร้ายผิวอย่างไร?
ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวในของทอดเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ ผิวอักเสบ ได้ง่าย ทำให้สิวที่เป็นอยู่หายช้า หรือกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ ได้ นอกจากนี้ ยังเข้าไปรบกวนสมดุลของฮอร์โมนและกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนใบหน้า เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหา อาหารทำให้หน้ามัน และรูขุมขนอุดตัน
ทริคกินอย่างไรให้ผิวไม่พัง
เปลี่ยนวิธีการปรุงจาก "ทอด" เป็น "ย่าง, อบ, นึ่ง" แทน
หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรใช้กระดาษซับมันซับน้ำมันส่วนเกินออกให้มากที่สุด
เลือกใช้น้ำมันดีในการปรุงอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก
3.อาหารแปรรูป (ไส้กรอก, แฮม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป)
อาหารที่สะดวกและรวดเร็วมักต้องแลกมากับสารปรุงแต่งต่างๆ ที่ไม่เป็นมิตรต่อผิว
อาหารแปรรูปทำร้ายผิวอย่างไร?
นอกจากจะมีโซเดียมและไขมันอิ่มตัวสูงแล้ว อาหารแปรรูปมักมีสารปรุงแต่ง สี และวัตถุกันเสีย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ในคนที่ ผิวแพ้ง่าย ทำให้เกิดผดผื่นคัน หรือสิวเห่อขึ้นมาได้

ทริคกินอย่างไรให้ผิวไม่พัง
ทานให้น้อยลงเท่าที่จำเป็น
พยายามทานอาหารสดใหม่ที่ปรุงเองให้บ่อยขึ้น
หากต้องทานจริงๆ ควรเพิ่มผักสดและโปรตีนดีๆ เช่น ไข่ต้ม หรืออกไก่ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร
4. อาหารโซเดียมสูง (ยำ, ส้มตำ, ของหมักดอง)
เมนูสุดแซ่บอย่างยำและส้มตำ มักมาพร้อมกับปริมาณโซเดียมและผงชูรสที่สูงเกินความจำเป็น
โซเดียมสูงทำร้ายผิวอย่างไร?
โซเดียมสูงกับผิว เป็นของที่ไม่ถูกกันอย่างแรง เพราะโซเดียมจะเข้าไปดูดซับน้ำออกจากเซลล์ในร่างกายรวมถึงเซลล์ผิว ทำให้ ผิวแห้งขาดน้ำ แม้จะดื่มน้ำเยอะก็ตาม เมื่อผิวแห้งกร้าน ก็จะดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยเล็กๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ ผลจากการที่ร่างกายพยายามจะปรับสมดุลน้ำ อาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและใต้ตาในตอนเช้า

ทริคกินอย่างไรให้ผิวไม่พัง
ปรุงรสอาหารด้วยตัวเองเพื่อควบคุมปริมาณโซเดียม
สั่งอาหารรสจัดว่า "รสไม่จัดมาก" หรือ "เค็มน้อย"
ดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ เพื่อช่วยขับโซเดียมส่วนเกินและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
ปรับนิดหน่อย เพื่อผิวสวยจากภายในในระยะยาว
การดูแลผิวที่ดีที่สุดคือการดูแลจากภายในสู่ภายนอก ไม่จำเป็นต้อง "ห้ามกิน" อาหารโปรดทั้งหมด แต่แค่ "กินอย่างฉลาด" และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็สร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้
ลดปริมาณ ไม่ใช่ อด: ยังกินของที่ชอบได้ แต่ในปริมาณที่น้อยลงและไม่บ่อยเท่าเดิม
ดื่มน้ำเปล่าให้พอ: การดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน ช่วยขับของเสียและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยตรง
เน้นผักและผลไม้: เพิ่มวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและต่อสู้กับเหล่าตัวร้ายที่ทำลายผิว
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถมีความสุขกับการกินควบคู่ไปกับการมี สุขภาพผิวที่ดี ได้แล้วค่ะ การเลือกกินคือหนึ่งใน ทริคดูแลผิว ที่ง่ายและยั่งยืนที่สุด


